บันทึก การเดินทาง เสี้ยวเวลา และ ก้าวเดิน [Taiwan]

ไทยไป...ไทเป

ไต้หวัน  ประเทศไม่ใหญ่ไม่เล็กในทวีปเอเชีย ประเทศที่มักเป็นที่แวะเปลี่ยนเครื่องของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าจีนยังยึดถือว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งของตน แต่หากได้มาสัมผัสและท่องเที่ยวไปในที่แห่งนี้ เราจะได้พบเสน่ห์ที่หลากหลาย ความผสมผสานที่ลงตัวของวัฒนธรรมจีน ญี่ปุ่น  ประวัติศาสตร์ของไต้หวันไม่ยาวนานแต่เรียกได้ว่าทุกๆก้าวที่ไต้หวันเผชิญก่อให้เกิดสถานที่ วัฒนธรรม ภูมิปัญญามาจนถึงปัจจุบันนี้ มองดูแล้วประเทศนี้พัฒนามาได้ไกลจริงๆ 

อนุสรณ์เจียง ไค เช็ค

เจียง ไค เช็ค บุคคลที่มีความสำคัญกับประเทศไต้หวันอย่างมาก หลังจากขึ้นเป็นผู้นำของประเทศจีน เขาก็ได้มาตั้งรัฐบาลขึ้นบนเกาะไต้หวัน อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค(中正紀念堂) จึงกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่รำลึกถึงผู้นำของชาติในอดีต อนุสรณ์สถานนี้มีการสร้างตามแบบฉบับของจีน คือ สถาปัตยกรรมต่างๆจะมีขนาดใหญ่ มีความน่าเกรงขาม รวมทั้งมีการใช้หินเป็นวัสดุในการก่อสร้างเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงแม้โครงสร้างจะเป็นแบบจีนแต่ความสะอาดกลับหมดจด

สถาปัตยกรรมที่น่าเกรงขาม

หลังจากเดินขึ้นบันไดมาจนสุดทาง เราก็จะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ที่ภายในมีรูปปั้นของ

ท่านเจียง ไค เช็คนั่งอยู่บนเก้าอี้ และนอกจากนั้นทุกๆต้นชั่วโมงที่ อนุสรณ์สถานแห่งนี้ก็จะมีพิธีเดินเปลี่ยนเวรของทหาร ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 ของทุกวัน 

รูปปั้นท่านเจียง ไค เช็ค

การเดินทาง ลงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall ทางออก 5

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.talontiew.com/chiang-kai-shek-memorial-hall/

สถานที่ต่อไปที่เราจะเดินทางไป เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ที่สุดในไทเป และเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยรวมทั้งประเทศอื่นๆให้แวะเวียนมาเยี่ยมชม และทำบุญ ขอพรสิ่งสักสิทธิ์อยู่เสมอ

วัดหลงซาน จุดเด่นที่เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณวัดคือน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ วัดหลงซานหรือวัดเขามังกร สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1738 และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง วัดแห่งนี้เสียหายอย่างมากจากการถูกทิ้งระเบิดที่พลาดเป้า เมื่อศูนย์รวมจิตใจของชาวไทเปถูกทำลาย ก็ทำให้เกิดการบูรณะขึ้น โดยระดมช่างฝีมือจำนวนมากมาซ่อมแซม และแต่งเติมรายละเอียด ทำให้วัดแห่งนี้กลับมาสวยงาม กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของไทเป

นอกจากลักษณะที่เหมือนวัดจีน เช่น เสาลายมังกร สีสันและการตกแต่ง ที่วัดหลงซานยังมีการขายเครื่องราง เหมือนเช่นวัดในประเทศญี่ปุ่นด้วย

การเดินทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานี Longshan Temple ทางออก 1

และหากต้องการทราบเรื่องราวของวัดที่มีประวัติเก่าแก่ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lungshan.org.tw/en/index.php

เดินถัดจากวัดหลงซานมาสักสองห้องแถว ก็จะพบก็ห้องแถวที่มีความแปลกตา เพราะมีความย้อนยุค มีเสน่ห์มากกว่าห้องแถวห้องอื่นๆที่เดินผ่าน Bo-Pi-Liao Historic Block คือชื่อของถนนวัฒนธรรมสายนี้

แผนที่ของ Bo-Pi-Liao Historic Block 

ตามกำแพงอิฐสีแดงสองข้างทาง มีรูปวาดที่ถูกเขียนด้วยสีชอล์กตกแต่งอยู่ นอกจากนั้นตามห้องแถวแต่ละห้องมักเปิดประตูอ้าไว้ ต้อนรับผู้มาเยือน จัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายแขนง ทั้งรูปวาด และรูปถ่าย มีการจัดนิทรรศกาลต่างๆอย่างหมุนเวียน 

ด้วยความที่เป็นถนนสายวัฒนธรรมของรัฐบาลไต้หวัน โครงสร้างของอาคารต่างๆจึงได้ถูกรักษาเก็บไว้อย่างสวยงาม แม้จะเป็นระยะทางของถนนที่ไม่ยาวมากนัก แต่การมาดื่มด่ำตึกเก่าๆ ซึมซับวัฒนธรรมของประเทศไต้หวัน ณ ที่แห่งนี้ แม้มาเดินเที่ยวในวันฝนตกก็ยังสามารถมีความเพลิดเพลินไปได้เช่นกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม :

Bo-Pi-Liao Historic Block

TAIPEI 101

หลังจากเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆของไทเปไปแล้ว หากจะไม่พูดถึงสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงไทเปก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ไทเป101 คือจุดเด่นของเมืองนี้ ด้วยจำนวนชั้นกว่า 101ชั้น เป็นอาคารที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของคนไต้หวัน และในอดีตก็เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดของโลกอีกด้วย เหตุผลที่ตึกนี้ต้องมี 101ชั้นก็เนื่องมาจากวันที่ 1 เดือน 1 คือวันปีใหม่ เป็นวันที่ตึกไทเป 101 เริ่มเปิดให้บริการ ก็นับเป็นวันมงคลนอกจากนั้นที่ยอดของตึกจะมีแสงไฟ มีความหมายเหมือนเป็นแสงเทียน หรือคบไฟที่สื่อถึงเสรีภาพ และความยินดีอีกด้วย 

การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีฟ้าลงที่สถานี Taipei City Hall
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 600 NTD ,เด็กนักเรียนและเด็กที่สูงกว่า115เซนติเมตร 540 NTD สำหรับเด็กที่สูงน้อยกว่า 115 เซนติเมตร เข้าชมได้ฟรี


หากคุณเป็นคนที่ชอบวัฒนธรรมของญี่ปุ่น แม้ว่าจะมาเที่ยวประเทศไต้หวัน คุณก็ยังสามารถพบเจอกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ซ่อนอยู่ได้ หากญี่ปุ่นมีออนเซน ที่ไต้หวันก็มี Xinbeitou สวรรค์ของคนรักการแช่บ่อน้ำร้อน โดยในบริเวณ Xinbeitou ก็จะมีสถานที่อีกหลายๆแห่งที่น่าเที่ยว เช่น Beitou Hot Spring Museum , Beitou Thermal Valley, Taipei Public Library Beitou Branch

Beitou Hot Spring Museum สถานที่รวมประวัติศาสตร์ของบ่อน้ำพุร้อนของเป่ยโถว สร้างขึ้นในปี 1913 ในช่วงที่ไต้หวันอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศญี่ปุ่น เดิมทีตัวอาคารเป่ยโถวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับเป็นห้องอาบน้ำสาธารณะ และเมื่อหลังจากที่ไต้หวันถูกปกครองโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน อาคารแห่งนี้ก็ได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการใช้งานไปเป็น สถานีตำรวจแลพสำนักงานใหญ่ก๊กมินตั๋ง และสุดท้ายก็ถูกปล่อยรกร้างไว้ จนกระทั่งมีคนมาพบเข้าและถูกบูรณะซ่อมแซมจนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เป่ยโถวเช่นทุกวันนี้

อาคารพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อน

เปิดทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 9.00-17.00น.

ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดประจำชาติ

เข้าชมฟรี

ข้อมูลเพิ่มเติม Beitou Hot Spring Museum

Beitou Thermal Valley

ที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมน้ำแร่สีเขรยวมรกต อุณหภูมิร้อนถึง 80-100องศาเซลเซียส ซึ่งในอดีตชาวไต้หวันมักนำไข่มาต้มที่นี่ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น จึงได้มีการห้ามไม่ให้ต้มไข่รวมถึงเข้าใกล้น้ำพุร้อนนี้มากเกินไป เพื่อความปลอดภัย

ในบริเวณเดียวกันมีร้าน Hot Spring Valley Store ร้านเครื่องดื่ม รวมถึงอุปกรณ์อาบน้ำและของจุกจิกด้วย เราสามารถมานั่งพัก ผ่อนคลายเลือกซื้อของที่ระลึกหรือของฝากได้

เวลาเปิด-ปิด: 09:00-17:00 น. ปิดวันจันทร์

ไม่มีค่าเข้าชม 

สถานที่สุดท้ายที่จะพาไปชม เป็นสถานที่ที่ต้องออกจากตัวเมืองไทเปไปหน่อย แต่ถึงแม้จะเดินทางไกลแต่ก็ไม่ลำบากและคุ้มค่า เริ่มต้นจากสถานีรถไฟ Taipei Main Station สถานีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง มีรถไฟหลายประเภทมาจอดที่นี่ นอกจากนั้นยังมีรถบัสและรถแท็กซี่มาจอด เพื่อเดินทางไปที่อื่นได้ด้วย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่รับรองคนจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีร้านขายของฝากหลายประเภทและร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทานด้วย

รถไฟที่นั่งไปสถานี Ruifang

สถานที่ที่เราจะเดินทางไปในวันนี้คือ เมืองจิ่วเฟิ่น (Jiufen) โดยนั่งรถไฟ TRA จากสถานี Taipei Main Station ไปลงที่สถานี Ruifang Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที โดยมีรถไฟให้เลือกหลายประเภท เมื่อมาถึงสถานี Ruifang Station แล้วให้เดินออกจากสถานี และข้ามถนนมาต่อรถบัสสาย 1062,788,827,856 นั่งมาลงที่ป้าย Jiufen (หรือสังเกตป้ายที่มีคนลงเยอะๆ)      ค่าโดยสารประมาณ 15 NTD เดินทางประมาณ 40 นาที

บรรยากาศจากป้ายรถบัสจิ่วเฟิ่น

Jiufen Old Street เป็นหมู่บ้านอากาศดีที่ตั้งอยู่บนเขาสูง มองลงไปเบื้องล่างจะสามารถเห็นทะเลสาบและทะเลหมอกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ภายในหมู่บ้านบางส่วนถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารมากมายเปิดขึ้นที่นี่ และมีอาหารยอดนิยมมากมายเช่น ไส้กรอกไต้หวัน ไข่ต้มสมุนไพร เต้าหู้เหม็น และไอศกรีมถั่วตัด

สังเกตเห็นได้ว่ามีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติมาเที่ยวที่นี่ ทำให้มีป้ายหลายภาษาแปะอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะคนเกาหลีและคนญี่ปุ่นก็นิยมมาเที่ยวที่นี่ จุดเด่นของ Jiufen Old Street คือโคมไฟสีแดง 

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้คนนิยมมาเที่ยวที่นี่ก็เพราะ สถานที่แห่งนี้เป็นต้นแบบของฉากในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Spirited away จากค่ายการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง Ghibli

โรงน้ำชาที่กลายเป็นฉากสำคัญในการ์ตูน Spirited away 

ฉากในเรื่อง Spirited away 

วิวจิ่วเฟิ่นยามค่ำคืน 

นอกจากหมู่บ้านแห่งนี้แล้วอีกสถานที่หนึ่งที่สามารถเดินทางต่อไปได้โดยนั่งรถบัสสาย 1062 ถัดไปเพียงหนึ่งสถานี ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งชื่อว่า Jiufen Gold Museum เป็นพิพิธภัณฑ์เหมืองทองซึ่งเดิมทีพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองทองในสมัยที่ญี่ปุ่นยึดครองไต้หวัน ทำให้ภายในก็จะมีศาลเจ้าชินโต ตำหนักของมกุฎราชมารฮิโรฮิโตะแห่งญี่ปุ่น รวมถึงบ้านเรือนต่างๆที่เป็นสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น 

รถลากที่ใช้ในการทำเหมือง

เหมืองทองที่เปิดให้เข้าชมได้บางส่วน

ค่าเข้าชม 80 NTD
วันเวลาเปิดปิด
วันจันทร์-วันศุกร์ : 9.30-17.00
วันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันหยุด : 9.30-18.00
ข้อมูลเพิ่มเติม JINGUASHI GOLD ECOLOGICAL PARK

หากท่านกำลังมองหาประเทศในแถบเอเชียที่น่าสนใจ เดินทางอย่างสะดวกสบาย การท่องเที่ยวมีหลากหลายด้าน อย่าลืมไต้หวันเป็นหนึ่งในตัวเลือกของท่าน แล้วการท่องเที่ยวครั้งนั้นจะน่าประทับใจอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน 

วิดีโอรวบรวมสถานที่ต่างๆที่ได้ไปมาในไต้หวัน 1st vlog | TAIWAN 2016